วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ใบงานที่ 3

1. การเตรียมตัวก่อนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ตอบ  1. เครื่องคอมพิวเตอร์        เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขายกันท้องตลาดส่วนใหญ่จะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทั้งสิ้น คุณสมบัติของเครื่อง อย่างน้อยควรเป็น Pentium II ขึ้นไป มีหน่วยความจำไม่ต่ำหว่า 64 Mb
2. โมเด็ม (Modem)        โมเด็มเป็นอุปกรณ์ในการส่งข้อมูลโดยแปลงสัญญาณ ดิจิตอลพอร์ตอนุกรมเป็นสัญญาณอนาล็อกส่งออกไปตามสายตัวโทรศัพท์และเมื่อถึงโมเด็มปลายทาง ตัวโมเด็มก็จะ แปลงสัญญาณอนาล็อกกลับเป็นดิจิตอลอีกครั้ง โมเด็มมีให้เลือกใช้งาน 2 แบบ คือ
                2.1 โมเด็มภายนอก (External Modem)  เป็นโมเด็มที่ติดตั้งอยู่ภายนอกเครื่องคอมพิวเตอร์ ติดตั้งง่าย การทำงานจะมีประสิทธิภาพดี ข้อเสีย คือ มีราคาแพง ซึ่งสามารถติดต่อได้ทั้งพอร์ต Com 1 และพอร์ต Com 2
2.2 โมเด็มภายใน (Internal Medem) เป็นโมเด็มที่ติดตั้งภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็นการ์ด ข้อดี มีราคาถูก แต่ติดตั้งลำบาก และมีประสิทธิภาพการใช้งานต่ำกว่าโมเด็มภายนอก มีลักษณะเป็นการ์ดเสียบเหมือนกับการ์ด ทั่วๆไปเหมาะสำหรับผู้ที่มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์พอสมควร เพราะโมเด็มประเภทนี้จะติดตั้งยากและ มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับการชนกันระหว่างอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ โมเด็มที่ใช้งานควรมีคุณลักษณะตามมาตรฐาน ดังนี้
        1. ความเร็วไม่น้อยกว่า 56 Kbps
        2. อย่างน้อยต้อง ใช้กับ Protocol v.90
        3. รับ-ส่ง Fax 14.4 Kbps ตามมาตรฐาน v.7 ขึ้นไป
        4. มีมาตรฐานของ v.42 (Correction) และ v.42 bis (Compression)
3. คู่สายโทรศัพท์
         ต้องใช้คู่สายโทรศัพท์ 1 หมายเลขที่ใช้ปกติอยู่ตามบ้านหรือจะเช่าคู่สายโทรศัพท์สำหรับ เชื่อมต่อสัญญาณกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือ ISP เพิ่มก็ได้ เพราะจะได้แยกการใช้โทรศัพท์ธรรมดากับโทรศัพท์ที่ใช้กับเครื่องต่ออินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตามคู่สาย โทรศัพท์ยังมีการให้เลือกใช้อีกหลายระดับซึ่งสามารถเช่าคู่สายเฉพาะที่จะใช้ต่อเชื่อมสำหรับระบบ คอมพิวเตอร์ เช่น สายต่อลีดส์ลาย (Leased Line) สายจากระบบ Data Net และสายแบบ ISDN (Integrated Service Digital Network) เป็นต้น แต่การใช้คู่สายพิเศษดังกล่าวจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้ใน ระดับองค์กรมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป
4. ซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานบนอินเทอร์เน็ต
        
     หมายถึงโปรแกรมที่ใช้ในการปฏิบัติงานบนอินเทอร์เน็ต ได้แก่ Internet Explorer, ICQ เป็นต้น
5. Internet
Account
        Internet Account คือ บัญชีผู้ใช้ที่แต่ละแห่งอนุญาตให้เจ้าของบัญชีมีสิทธิในการใช้บริการต่างๆ ถ้าเป็นบัญชีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต จะหมายถึง ผู้ใช้คนนั้นจะมีชื่อในการล็อกอิน (Login Name, User Name) และรหัสผ่าน (Password) เพื่อเข้าไปใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้ ในการใช้งานอินเทอร์เน็ต เราจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่อยู่ในเขตจังหวัดนั้นเสียก่อน ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP มีอยู่หลายราย แต่ละรายก็มีความเร็วในการใช้งานแตกต่างกันออกไป รวมทั้งราคาค่าบริการการใช้งานก็แตกต่างกันไปด้วยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้นั้น เราจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ที่มีอยู่ในเขตจังหวัดนั้นเสียก่อน ซึ่งผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตก็อยู่ด้วยกันหลายราย แต่ละรายก็มีความเร็วในการใช้งานแตกต่างกันไป รวมทั้งราคาการใช้งานก็จะแตกต่างกันเช่นกัน การคิดราคาการใช้งานนั้น โดยส่วนใหญ่จะคิดเป็นรายชั่วโมง ประมาณชั่วโมงละ 15 ถึง 50 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการใช้งาน

2. การติดตั้งโมเด็ม
       2.1 โมเด็ม 56 K
       ตอบ เป็นโมเด็มแบบอนาล็อคที่ใช้ในการรับส่งสัญญาณผ่านระบบโทรศัพท์แบบธรรดา เวลาเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในแต่ละครั้งจำเป็นจะต้องหมุนหมายเลขโทรศัพท์ไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เร็ต (ISP) ด้วย มาตราฐานล่าสุดที่ใช้กันในปัจจุบัน คือ V.92 ซึ่งให้ Bit Rate หรืออัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดที่ 56/33.6 Kbps (รับข้อมูลขาลงจากอินเทอร์เน็ต หรือ Download ที่ความเร็ว 56 Kbps และส่งข้อมูล ขาขึ้น Upload ที่ความเร็ว 33.6 Kbps)
สามารถแบ่งออกตามลักษณะในการติดตั้งได้ดังนี้
·       แบบติดตั้งภายใน (Internal Modem) มักเป็นแบบการ์ด PCI ที่ใช้เสียบลงบนเมนบอร์ดข้อดีของโมเด็มแบบนี้คือ ไม่มีสายต่อรุงรังและไม่ต้องใช้ตัวอะแดปเตอร์ (Adapter) คอยจ่ายไฟเลี้ยงให้
·       แบบติดตั้งถายนอก (External Modem) เป็นแบบตัวเตรื่องขนาดเล็กวางตั้งไว้อยู่ภายนอกตัวเครื่อง ในการเชื่อมต่อถ้าเป็นโมเด็ม 56k จะมีทั้งแบบที่ใช้กับพอร์ตอนุกรมและพอร์ต USB แต่ถ้าเป็น โมเด็ม ADSL จะมีทั้งแบบที่ใช้กับช่างต่อ RJ-45 ของการ์ด LAN และพอร์ต USB ส่วนสายสัญญารโทรศัพท์จะใช้เสียบเข้ากับช่องต่อ RJ-11 ของอุปกรณ์แยกสัญญาร (Splitter) ข้อดีของโมเด็มแบบนี้คือ ติดตั้งได้ง่ายและมีไฟบอกสถานะตลอดเวลา

           2.2 โมเด็ม ADSL (โมเด็ม Hi-Speed)
              ตอบ  1.  เริ่มต้น ต่อสาย USB Port ด้านหนึ่งเข้ากับ ADSL MODEM อีกด้านต่อสายเข้ากับ USB Port ของคอมพิวเตอร์
2.   ถอดสายโทรศัพท์จากตัวเครื่องโทรศัพท์ออกมา ต่อในช่อง LINE ของอุปกรณ์ที่เรียกว่า splitter (ที่มีด้านเดียว)
3.   นำสายโทรศัพท์อีกเส้นหนึ่งที่มี มาต่อเข้ากับช่อง MODEM ของกล่อง splitter และนำสายอีกด้านไปต่อเข้ากับ ADSL MODEM
4.     นำสายโทรศัพท์จากตัวเครื่องรับโทรศัพท์มาต่อเข้ากับ เครื่องรับโทรศัพท์ (เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทั้ง ADSL MODEM และ โทรศัพท์)
** หลังจากได้มีการติดตั้งอุปกรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการติดตั้ง Driver ของ ADSL MODEM และสร้าง connection (หมายถึงการสร้าง Dial-up เช่นเดียวกับการต่อแบบโมเด็มธรรมดา)
5.     นำแผ่น driver CD ที่มีมาพร้อมกับ ADSL MODEM ใส่ และติดตั้ง driver ลงไป ทั้งนี้หลังจากติดตั้ง driver แล้ว ระบบจะมีการตรวจสอบสัญญาณ ADSL MODEM
6.      ถ้ามีการปล่อยสัญญาณจากบริษัทที่เราได้รับการขอติดตั้งแล้ว ก็จะมีสัญลักษณ์ที่ Task bar ของ Windows ปรากฏอยู่ "ADSL Connected" (ทั้งนี้ อาจจำเป็นต้องรอประมาณหนึ่งอาทิตย์ เพื่อให้ทางบริษัท TRUE หรือองค์การโทรศัพท์ มีการเชื่อมต่อสัญญาณ ADSL ก่อน)
7.     หลังจากนั้น จะต้องมีการติดตั้ง ADSL Dial-up เพื่อสร้างหน้าต่างการ Login เข้าระบบ (เช่นเดียวกับต่อ Modem ผ่าน Dial-up ธรรมดา) โดยทางผู้ใช้งานจะต้องขอรับ User Name และ Password จากผู้ให้บริการก่อน
                การติดตั้งใน ADSL Modem แต่ละยี่ห้อ จะไม่มีความแตกต่างกันมากนัก

           2.3  Wireless Router Modem
          ตอบ  1. เชื่อมต่อ Computer กับอุปกรณ์ Router ด้วยการต่อสาย Lan จาก Port RJ-45 ของ Router (port 1-4) มาที่ Port RJ-45 ของ Computer
2.
เปิดโปรแกรม Internet Explorer พิมพ์ URL 192.168.1.1
3.
ใส่ User Name = root , Password = admin
4.
เข้าที่หน้าจอ Basic Setup เลือก Connection Type = Automatic Configuration-DHCP
5. กำหนด IP Address ให้กับอุปกรณ์ Wireless Router
จากรูปจะ Set ค่า ให้ Router
Local IP Address = 192.168.1.2
Subnet Mask = 255.255.255.0
Gateway
และ Local DNS จะเป็นหมายเลข IP ของอุปกรณ์ Modem(ที่ทำหน้าที่เป็น Gateway) คือ 192.168.1.1

6.
ทำการปิด DHCP
7. จากนั้น Click ปุ่ม Save Settings รอให้อุปกรณ์ Router Reboot ตัวเองประมาณ 2 นาที
ทีนี้มา Set สัญญาณ Wireless กันต่อครับ

1. Set
สัญญาณ Wireless โดยเข้าที่ Menu Wireless เลือก Basic Settings เปลี่ยนชื่อสัญญาณ Wireless ตามต้องการจากนั้น Click ปุ่ม [Save Settings]

2. ตั้งค่า Security ป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้สัญญาณ Wireless โดยเข้าที่ Menu Wireless à Wireless Securityกำหนดตามนี้
Security Mode = WPA Pre-Shared Key
WPA Algorithms = TKIP
ตั้งค่า WPA Shared Key ตามต้องการ
จากนั้น Click [Save Settings]
จากนั้นต่อสายเชื่อมระหว่างอุปกรณ์ Modem กับ Wireless Router และต่อเข้า Computer ตามรูปข้างล่าง แล้วลองเข้า Internet ครับ ถ้าได้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ทดสอบสัญญาณ Wireless ด้วยการเปิดตัวรับสัญญาณ Wireless แล้ว Connect เข้ากับสัญญาณ Wireless ที่ตั้งชื่อไว้ตามข้อที่ 9    ลองเข้า Internet ครับ

       3. การกำหนดค่าตัวเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านโมเด็ม 56 K  
   ตอบ
1. คลิก Start >> All Programs >> Accessories >> Communications >> New Connection Wizard
2. คลิก Next  
3. ติ๊กทำเครื่องหมายจุดภายในวงกลมเล็ก แถว Connect to the Internet เสร็จแล้วคลิก Next
4. ติ๊กทำเครื่องหมายจุดภายในวงกลมเล็ก แถว Set up my connection manually เสร็จแล้วคลิก Next
5. ติ๊กทำเครื่องหมายจุดภายในวงกลมเล็ก
- แถว Connect using a dial-up modem เมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยโมเด็ม 56K
- แถว Connect using a broadband connection that requires a user name and password เมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง DSL หรือเคเบิ้ลโมเด็ม ที่ต้องป้อน user name และ password ทุกครั้งที่เชื่อมต่อเข้าอินเทอร์เน็ต
- แถว Connect using a broadband connection that is always on เมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง DSL หรือเคเบิ้ลโมเด็ม ที่เชื่อมต่อตลอดเวลา
เสร็จแล้วคลิก Next
6. ตั้งชื่ออะไรก็ได้ ที่ง่ายต่อการจดจำ พิมพ์ในช่อง ISP Name (ISP=Internet Service Provider=ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต) ตัวอย่างเช่น ใช้อินเทอร์เน็ตขององค์การโทรศัพท์ พิมพ์ TOT หรือเป็นชื่ออื่นก็ได้ แต่ต้องเป็นอักษรภาษาอังกฤษเท่านั้น
เสร็จแล้วคลิก Next
7. พิมพ์หมายเลขเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของ ISP นั้น ในช่อง Phone numberตัวอย่างเช่น TOT พิมพ์ 1222 เสร็จแล้วคลิก Next
8. พิมพ์ User name และ Password ที่ต้องใช้ผ่านในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของ ISP นั้น ตัวอย่างเช่น TOT พิมพ์ U89$0y)9@totonline.net ในช่อง User name และพิมพ์ j4**9c+p ในช่อง Password กับที่ Confirm Password  เสร็จแล้วคลิก Next
9. คลิก Finish เสร็จสิ้นการสร้าง New Connection Wizard
10. จากนั้น ต้องตั้งค่าการทำงานใน Internet Options ของ ISP นั้น
- คลิก Start >> Control Panel >> Network and Internet Connections >> Internet Options >> Connections
- จะเห็นชื่อ TOT ที่สร้างไว้ อยู่ในช่อง Dial-up and Virtual Private Network settings ให้คลิกชื่อ ISP ในช่องนั้น ที่ต้องการจะตั้งค่า ในที่นี้คลิก TOT
- แล้วมาติ๊กทำเครื่องหมายจุดภายในวงกลมเล็ก แถว Always dial my default connection
- เสร็จแล้วคลิกที่ Set Default
11. เมื่อเลือก ISP ไหนเป็น Default แล้ว ให้กลับไปติ๊กทำเครื่องหมายจุดภายในวงกลมเล็ก แถว Never dial a connection การที่ต้องติ๊กทำเครื่องหมายจุดภายในวงกลมเล็ก แถว Never dial a connection มีประโยชน์มาก ป้องกันไม่ให้วินโดว์หมุนเบอร์ต่ออินเทอร์เน็ตเองอัตโนมัติ เวลาที่เน็ตหลุด หรือเน็ตครบเวลาตัด อันจะทำให้ค่าโทรศัพท์เพิ่มขึ้นโดยเปล่าประโยชน์
12. จากนั้น คลิกที่ Settings
13. จะเห็น User name และ Password ที่ตั้งไว้ ข้อน่าสังเกตอีกอย่าง ช่องสี่เหลี่ยมเล็ก จะปล่อยว่างไว้ทั้งหมด (ในภาวะปรกติ) ต่อไป คลิกที่ Properties
14. จะเห็น หมายเลขเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้หมุนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ในช่อง Phone number และสามารถลบทิ้ง แล้วเปลี่ยนเป็นเบอร์ใหม่ได้ ในกรณีที่ ISP นั้น มีหลายเบอร์ให้ใช้
จะต้องมีติ๊กทำเครื่องหมาย ถูก ในช่องสี่เหลี่ยมเล็ก แถว Show icon in notification area when connected เพราะถ้าไม่ได้ทำเครื่องหมายถูกไว้ จะไม่มีรูปโทรศัพท์คู่กะพริบ ตรงมุมขวาล่างจอ
ต่อไป คลิกที่ Configure
15. ที่ maximum speed (bps) คลิกเลือกค่ามากสุดที่มี ในนี้ที่เห็น คือ 921600 ส่วนช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ติ๊กทำเครื่องหมายถูก ตามรูป
16. เมื่อเลือก maximum speed (bps) เสร็จแล้ว คลิก OK กลับออกมา คลิกที่ Alternates
17. เมื่อคลิก Alternates เข้ามา จะเห็นหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ของ ISP ในนี้ที่เห็น คือ 1222 และจะเห็นมีปุ่ม Add... กับปุ่มอื่นๆอีก โดยปุ่ม Add มีไว้คลิกเพิ่มหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ของ ISP เดียวกัน หรือจะเป็นของ ISP รายอื่นก็ได้ที่ทำไว้ Add ใช้ได้หลายเบอร์ เพื่อเวลาที่เบอร์แรก หรือเบอร์ต้นหมุนไม่ผ่าน สายไม่ว่าง ก็จะหมุนเบอร์อันดับต่อๆมา วนกระทั่งเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้แต่แนะนำให้มีเพียงเบอร์เดียวในนี้ จะเหมาะสมกว่า เพื่อป้องกันค่าใช้โทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้นโดยเปล่าประโยชน์ ช่องสี่เหลี่ยมเล็กทั้งหมดในนี้ ให้ปล่อยว่างไว้ เสร็จแล้วคลิก OK ออกมา
18. ต่อมาคลิกด้านบน ที่แท็ป options และตั้งค่าตามรูปที่เห็นข้างล่างต่อไปนี้ เสร็จแล้วคลิก OK
19. ต่อมาคลิกด้านบน ที่แท็ป Advanced ตรงนี้ ที่ไว้กำหนดการทำงานของ ไฟร์วอล(Firewall) หรือระบบป้องกันของวินโดว์เอง ถ้าจะเปิดไฟร์วอลของวินโดว์ให้ทำงาน เพียงคลิกทำเครื่องหมาย ถูก ภายในช่องสี่เหลี่ยมเล็ก แถว Protect my computer and network by limiting or preventing access to this computer from the Internet แนะนำให้ ยกเลิก การใช้ไฟร์วอลของวินโดว์ จะทำให้การทำงานต่างๆมีเสถียรภาพดีขึ้นมาก แต่ต้องได้ติดตั้งซอฟแวร์ระบบป้องกันของตัวอื่นไว้แล้ว ได้แก่ Ad-Aware SE Professional, ZoneAlarm Pro  เป็นต้น
20. เสร็จจากไฟร์วอล ออกมาที่ เห็นตามรูปข้างล่างนี้ จากนั้นคลิก Advanced
21. เมื่อคลิก Advanced (รูปบน) จะมาที่ Advanced Dial-Up ให้ตั้งค่าไว้ 1 ที่ Try to connect
22. เสร็จจาก Advanced Dial-Up (รูปบน) คลิก OK มาถึงรูปข้างล่างนี้ แล้วคลิก LAN Settings...
23. เมื่อคลิก LAN Settings... (รูปบน) จะมาที่ Local Area Network (LAN) Settings ที่ตำแหน่งนี้ ไว้สำหรับตั้ง proxy ของระบบ LAN เท่านั้นปรกติ ในนี้จะปล่อยว่างไว้ทุกช่อง ดังรูปข้างล่างนี้ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร
เสร็จแล้วคลิก OK ออกจากการตั้งค่า New Connection Wizard
24. แนะนำเพิ่มเติม เทคนิคการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โมเด็ม 56k
- ในภาวะปรกติ ถ้าการเชื่อมต่อครั้งแรก ERROR ให้คลิก CANCEL แล้วกลับไปเริ่มต้นใหม่ อย่าคลิกให้เชื่อมต่อทันที
- เมื่อกำลังเชื่อมต่อ และขณะที่มีเสียงความถี่สูงอยู่นั้น ห้ามคลิกเมาส์เล่น หรือคลิกอะไรก็ตาม อย่ามือซน ควรปล่อยให้เมาส์อยู่นิ่งๆ กระทั่งการเชื่อมต่อสำเร็จ เห็นจอคู่เล็กกะพริบอยู่ที่มุมขวาล่างจอ
- การเชื่อมต่อถ้ามีปัญหา ไม่ปรกติเหมือนเช่นเดิม ที่เคยต่อง่าย ให้ ipconfig แล้ว ping ดูสัญญาณ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ 27. วิธีตั้งค่าและเลือกใช้ proxy
 
      4. การกำหนดค่าตัวเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
ตอบ   การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
         ในปัจจุบันเทคโนโลยีของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้มีความต้องการในการใช้งานที่ความเร็วสูงขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการให้บริการมัลติมีเดีย เช่น การดูภาพเคลื่อนไหวผ่านเครือข่าย การฟังวิทยุหรือดูโทรทัศน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เครือข่ายความเร็วสูงที่ว่านี้เรียกว่า บรอดแบนด์ ที่ส่งผ่านสัญญาณความเร็วสูงผ่านสายโทรศัพท์ธรรมดา
         ADSL : (Asymmetric Digital Subscriber Line) คือ บรอดแบนด์ หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยผ่านเทคโนโลยีของ ADSL Modem ซึ่งสามารถเปลี่ยนสายโทรศัพท์ธรรมดา ให้กลายเป็นสายดิจิตอลที่มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลสูง และมีประสิทธิภาพมากกว่าการสื่อสารด้วยโมเด็มธรรมดา 5-10 เท่า และที่สำคัญเรายังสามารถใช้ประโยชน์จากระบบนี้ได้สองทางพร้อมกัน นั่นคือ สามารถสนทนาด้วยเสียงแบบธรรมดาในขณะที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้พร้อม กันในเวลาเดียวกันได้ด้วย (โมเด็มอนาล็อกเดิมต้องวางสายการสนทนาก่อนจึงจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้)

ข้อดีของ ADSL
1. เป็นอินเทอร์เน็ตพร้อมใช้ตลอดเวลา "always on" เพียงคลิกบราวเซอร์ก็สามารถเชื่อมต่อกับโลกอินเทอร์เน็ตได้
2. หมดปัญหาสายหลุด ไม่ต้องจ่ายค่าหมุนโมเด็มต่อครั้ง ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการใช้งานโทรศัพท์
3. ดาวน์โหลดและอัพโหลดได้ทันใจ ไวกว่าเดิม 5-10 เท่า ดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่ๆ ได้สบายใจ
4. ดูข้อมูลประเภทมัลติมีเดียได้รวดเร็ว เช่น ดูหนัง/ฟังเพลงจากอินเทอร์เน็ต วีดิโอคอนเฟอเรนซ์ การเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
5. เล่นเกมออนไลน์ได้สนุกสนาน (จนอาจเสียคนได้ ถ้าแบ่งเวลาไม่ถูก)
6. ให้ความเร็วสูงสุด
ข้อเสียของ ADSL
1. มีค่าบริการและอุปกรณ์ใช้งาน
2. พื้นที่บริการยังไม่ครอบคลุม (แม้แต่เมืองใหญ่ๆ ในต่างจังหวัดก็ยังมีน้อย)
3. จ่ายเงินสองต่อ ค่าสายสัญญาณโทรศัพท์และค่าเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง
         อย่างไรก็ตามนโยบายของรัฐบาลโดยกระทรวงไอซีที ก็มีส่วนผลักดันให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไป หากสามารถทำให้แพร่หลาย ราคาอุปกรณ์ถูกลง ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน ก็จะทำให้ความฝันในการให้บริการข่าวสาร การจัดการความรู้สู่ชุมชนในรูปแบบออนไลน์เป็นจริงขึ้นมาได้แน่นอน

       5. การกำหนดค่าตัวเชื่อมต่อผ่าน Wireless Router Modem
ตอบ  Wireless Router เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แพร่กระจาย สัญญาณ Wireless รวมถึงมีฟั่งชั่น Router ในตัว แต่อุปกรณ์ประเภทนี้จะไม่มี ADSL(สายโทรศัพท์) บนอุปกรณ์ ซึ่ง port ที่เป็นตัวเชื่อมต่อ Internet จะเป็น Port LAN ที่มีฟังก์ชั่นในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
กรณีที่ 1 - เป็นการเชื่อมต่อ Router+Wireless ให้อยู่ Class IP เดียวกันกับระบบ Broadband Router
  • เป็นการต่อใช้งานแบบธรรมดา โดย Broadband Router ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมต่อ Internet หรือเป็น Gateway นั้นเอง ( PPPOE , User: , Pass อยู่ใน Broadband Router) อะนะ และ Broadband Router ก็เปิดการแจก IP (DHCP Server) อยู่
  • เราก็นำ port LAN จาก Broadband Router มาต่อที่ port LAN ของ Roter+Wireless
    Roter+Wireless ต้อง SET IP local ให้อยู่ใน class เดียวกับ Broadband Router / subnet / gateway / dns ของ Broadband Router และ ปิดฟังก์ชั่น DHCP ของ Roter+Wireless ด้วย
    ข้อดี
  • ต้องการสร้างวงในระบบเครือข่ายให้อยู่วง Network เดียวกันเพื่อสามารถแชร์ข้อมูลในระบบได้ง่ายขึ้น
  • ตัวอุปกรณ์ Router+wireless สามารถใช้งานในส่วน Wireless ได้ดียิ่งขึ้นเสถียรขึ้นเพราะไม่ต้องทำหน้าที่อะไรในระบบเลยแค่เป็น AP เท่านั้น
    ข้อเสีย
  • หากต้องการทำ Port Forword ที่ตัว Router+Wireless จะไม่สามารถทำได้เพราะตัวมันไม่ใช้เป็นตัวออก internet , DNS , Firewall ฯ
    กรณีที่ 1-2 - เป็นการเชื่อมต่อ Router+Wireless ให้อยู่คนละ Class IP เดียวกับระบบ Broadband Router นะครับ
  • โดยการนำ port lan จาก Broadband Router เข้ามาที่ port Internet ของอุปกรณ์ Router+wireless
  • โดย Router+wireless จะแยกการทำงานในส่วนของ WAN (Internet) กับ Local IP "WAN ที่ได้ จะรับมาจาก Broadband Router" ทำให้ "Local ของ Router+Wireless สร้างวงภายในอีกวงหนึ่งขึ้นมา
      ข้อดี
    • ต้องการสร้างวงในระบบเครือข่ายให้อยู่คนละวงกัน เพื่อแยกส่วนการทำงาน
    • สามารถควบคุมการออก internet ได้บนอุปกรณ์ Router+wireless
       
    • ข้อเสีย
    • หากระบบ Router+Wireless ถูกเปิดการใช้งาน Firewall อยู่บนตัวอุปกรณ์เครื่อง Client ที่เชื่อมต่อกับตัวนี้จะไม่สามารถข้ามไปเจอเครื่อง Client ที่ถูกต่ออยู่กับฝั่ง Broadband Router
    • หากต้องการทำ Port Forword ที่ตัว Router+Wireless จะไม่สามารถทำได้เพราะตัวมันไม่ใช้เป็นตัวออก internet , DNS , Firewall ฯ
    กรณีที่ 2 - เป็นการเชื่อมต่อ Router+Wireless ให้เป็นตัวเชื่อมต่อ Internet (gateway)
  • กรณีนี้ส่วนมากจะใช้งานกันเยอะ เพราะกรณีที่ผู้ใช้ มี Broadband Router ที่ผู้ให้บริการแถมๆ มาที่เป็น 1 port ADSL(RJ-11)
  • ตัว Broadband Router จะทำงานในโหมด Bridge ซึ่งการทำงานก็เป็นเหมือนสะพานเพื่อให้ Router+Wireless เป็นตัวเชื่อมต่อ กับ ผู้ให้บริการ Internet 
ข้อดี
  • บนตัว Router+Wireless สามารถใช้งานฟังก์ชั้นต่างบนตัวนี้ได้มากขึ้น เช่น DNS , Port Forwarding , PPTP SERVER , QOS , สร้างกฏการใช้งานเครื่องของ Client ออกใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็นช่วงเวลา Access Retraction , Firewall ฯลฯ
  • ข้อเสีย
  • บนตัว Broadband Router ที่นำมาใช้เป็น Bridge Mode จะไม่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้อีกเป็นเพียงเสมือนตัวส่งผ่านข้อมูลที่มาจาก DSL ไปให้กับ Router + Wireless เท่านั้น